กล้องใช้แล้วทิ้ง....หรือจริงๆจะเก็บไว้ก่อน

กล้องใช้แล้วทิ้ง , Disposable camera , Single Use Camera  หลากหลายชื่อที่จะใช้เรียกเจ้ากล้องประเภทนี้ อันนี้แล้วแต่ใครสะดวกก็เรียกตามที่ใจต้องการได้เลยครับ  แต่ว่าในวันนี้ผมไม่ได้ต้องการมาคุยเรื่องชื่อครับ แต่อยากจะชวนคุยเรื่อง "มันใช้ได้ครั้งเดียว" จริงๆเหรอซะมากกว่า

คือส่วนตัวแล้วผมชอบกล้องประเภทนี้นะครับ เพราะมันใช้โคตรจะง่ายเลย หมุน-เล็ง-กด  หมุน-เล็ง-กด  หมุน-เล็ง-กด ไปเรื่อยๆ  ผมเข้าใจเอาเองว่าคนผลิตคงอยากจะให้มันใช้ง่ายๆกับคนทุกวัย วัสดุง่ายๆ ราคาไม่แพง ไม่ได้เอากล้องมาจากบ้านก็หาซื้อง่ายๆตามแหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่สาธารณะอื่นๆ   พอใช้เสร็จก็เอาไปให้แล็บล้างรูป  แงะเอาฟิล์มออกมาล้าง  แล้วเราก็เอารูปที่ได้กลับบ้านไป  แต่ผมเป็นคนนึงล่ะครับที่ไม่ยอมทิ้งเจ้ากล้องประเภทนี้ไว้ที่แล็บ  มีอันต้องเอากลับมาบ้านด้วยตลอด  ก็มันน่ารักน่าสะสมดีครับ  

พอเริ่มสะสม  นานๆเข้าก็เริ่มหัดแงะเพื่อเอาฟิล์มออกมาเอง แงะจนพังไปก็เยอะ แงะแล้วโดนไฟจากแผงวงจรดูดไปก็มาก  จนเริ่มเรียนรู้กลไกของกล้องบ้างว่า อ๋อมันกดตรงนี้หมุนตรงนั้นแล้วจะได้ภาพออกมา  และด้วยความสงสัยอยากรู้ว่าทำไมกล้องประเภทนี้มันไม่มี "ตัวกรอฟิล์ม" เหมือนกล้องฟิล์มทั่วๆไปที่เราใช้กันวะ  ถ้าไม่กรอแล้วฟิล์มมันเข้าไปอยู่ในกลักตอนไหน

ก็เลยเริ่มหาความรู้เองว่าอ๋อที่มันไม่มีตัวกรอฟิล์มเพราะว่า "มันไม่ต้องกรอ" นะสิ  
ลองดูจากรูปนี้นะครับ  สมมุติรูปนี้เป็นหลังกล้องนะ 
1. คือกลักฟิล์ม
2. คือแกนเก็บฟิล์มซึ่งฟิล์มทั้งหมดจะถูกม้วนมาเก็บไว้ที่นี่ตั้งแต่เราได้กล้องมา (คือฟิล์มอยู่นอกกลักมาก่อนเลย)
3. คือตัวเลื่อนฟิล์ม  ใช้เลื่อนเพื่อถ่ายรูปถัดไป


คือผู้ผลิตใช้วิธีใส่กลักฟิล์มลงที่ด้านขวาในตำแหน่งที่ 1 แล้วดึงฟิล์มข้ามมาหมุนในแกนทางด้านซ้ายในตำแหน่งที่ 2 จนฟิล์มออกมาอยู่นอกกลักทั้งหมดก่อน  แล้วการหมุนตัวเลื่อนฟิล์มในตำแหน่งที่ 3 ไปทางขวา  ก็คือการเลื่อนฟิล์มเพื่อถ่ายภาพถัดไปและเป็นการกรอฟิล์มเข้ากลักไปในตัวด้วยเลย   พอเข้าใจเรื่องนี้แล้วก็เลยต้องกลับมาที่คำถามแรกของบทความว่า

"กล้องมันใช้ได้ครั้งเดียว" จริงๆเหรอ  คำตอบคือ "ไม่ใช่ครับ"  จริงๆมันสามารถใช้กี่ครั้งก็ได้ตราบเท่าที่เราไม่ทำกล้องพังไปเองก่อน   และการที่จะทำให้กล้องมันนำกลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง ก็จะนำไปสู่คำถามใหม่คือ "แล้วจะโหลดฟิล์มใหม่เข้าไปยังไง"  มาดูกันครับ



ขั้นแรกต้องเอาฟิล์มที่ถ่ายเสร็จแล้วออกมาจากกล้องเองให้ได้ก่อนครับ เริ่มจากมองหาจุดแกะเพื่อเปิดกล้องก่อน  เออลืมก่อนจะเริ่มต้องแน่ใจนะครับว่าเราถ่ายรูปจนฟิล์มหมดแล้ว  วิธีดูคือ เมื่อเราเลื่อนตัวเลื่อนฟิล์มไปทางขวาแล้วมันสามารถหมุนได้ยาวๆโดยไม่มีสิ้นสุดนั่นแหละ ใช่เลย  โอเคมาดูจุดแกะกล้องกัน  อันนี้ผมเอากล้องตัวอย่างมาจากกล้องยี่ห้อ I'M FINE นะครับ วิธีแกะส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆกันทุกยี่ห้อแหละอาจจะต่างออกไปนิดหน่อย

คำเตือน - ก่อนที่ท่านจะทำการแงะกล้องเอง ตกลงกันก่อนนะว่ามันมีจุดอันตราย ที่ไฟฟ้าจากกล้องอาจจะดูดเราได้ถ้าเราไปสัมผัส เช่นแผงวงจร ถ่านแฟลช คือจุดต่างๆที่ไม่ใช่พลาสติกนั่นแหละ ผมเองระวังแล้วยังเคยโดนมาจนเข็ดหลาบนะครับ เข้าใจนะระวังกันด้วยจ้าเพราะมันเจ็บจริงๆ


ลองมองหาจุดนี้ครับ



กล้องตัวนี้จะมีจุดแกะแค่ 2 จุด คือด้านซ้ายและขวา


จากนั้นเราก็เอาไขควรปากแบนตัวเล็กๆมางัดตรงนี้เบาๆ ห้ามทำหักเด็ดขาดดดด


พอแงะทั้งสองด้านเสร็จก็จะสามารถเปิดฝาหลังกล้องออกมาเห็นด้านในแบบนี้ ถ้าถูกต้องฟิล์มจะอยู่ในกลักทางด้านขวาทั้งหมดเรียบร้อย


จากนั้นก็มาเอาฟิล์มออกจากกล้องโดยค่อยๆแกะแผ่นรองก้นฟิล์มตรงนี้ออก


อ่ะออกมาละแบบนี้


ทีนี้เราก็เอาฟิล์มไปล้างได้แล้ว  และถ้าเราจะใส่ฟิล์มใหม่ลงไปเลยก็สามารถทำได้ ไหนๆก็จะใช้ให้คุ้มแล้ว  จัดต่อเลย  การโหลดฟิล์มเราสามารถใช้ฟิล์มที่มี iso เดิม หรือ iso ที่สูงขึ้นก็ได้  แต่ไม่ควรใช้ฟิล์มที่มี iso น้อยลง  เพราะว่าอาจจะไม่เหมาะกับค่า f.stop กับ Speed Shutter ที่กล้องมันฟิกไว้ครับ  อันนี้ผมสมมุติว่าใช้ฟิล์มแบบเดิมเลยนะ


ต่อไปเราก็จะมาถึงขั้นตอนการตั้งค่าแป้นบอกจำนวนฟิล์มที่เหลือครับ  วิธีคือให้หมุนแป้นตัวเลขนี้ตามเข็มนาฬิกาไปทางด้านซ้ายมือ (อย่าหมุนไปขวานะครับเดี๋ยวซี่เฟืองหัก) จนมันโชว์เลขตรงกับจำนวนรูปที่ถ่ายได้ของฟิล์มเรา  อันนี้ผมใช้ฟิล์ม 36 ภาพ ก็หมุนจนโชว์เลข 36 โดยให้ตำแหน่งมาร์คมันเลยๆไปตรงจุด รูปที่ 37 ก็ได้ครับ


ต่อไปเรามาทดลองการทำงานว่ากล้องมันยังใช้ได้อยู่ไหม โดยการทดลองขึ้นฟิล์มดู  ให้เราหมุนแกนตรงนี้ทวนเข็มนาฬิกาไปทางขวามือ ก็ค่อยๆหมุนไปซักพักอาจจะฝืดๆหน่อย  หมุนจนมันดัง แต็ก แล้วหมุนต่ออีกไม่ได้ จากนั้นให้เรากดปุ่มชัตเตอร์ 1 ทีครับ ถ้าถูกต้องม่านชัตเตอร์จะทำงานให้เห็นและแป้นบอกตัวเลขจะหมุนจาก 37 มาเป็น 36 เป็นอันใช้ได้จ้า


ต่อไปเป็นขั้นตอนการเอาฟิล์มใหม่มาใส่กล้องครับ โดยเอามาใส่ทางช่องด้านขวา แล้วดึงฟิล์มออกมาจากกลักให้ยาวข้ามมายังช่องซ้ายแบบนี้


ต่อไปให้เราหยิบแกนหมุนฟิล์มออกมาจากช่องทางด้านซ้ายครับ ลองเอามาดูจะมีหน้าตาแบบนี้ จะเห็นช่องยาวๆตามแกนบนล่าง  เราจะเอาหัวฟิล์มเสียบเข้าที่ช่องนี้แหละครับ


ต่อไปให้เราเอาหัวฟิล์มมาเสียบลงในช่องดังกล่าว  โดยพยายามดันฟิล์มเข้าไปให้สุดนะครับ มันจะไปค้างอยู่ระดับนึงโดยไม่ทะลุข้ามแกนไป


จากนั้นก็เอาทั้งหมดใส่กลับเข้าไปในกล้องจัดวางตามตำแหน่งให้เรียบร้อย  


เอาฝาปิดตูดฟิล์มมาใส่ไว้อย่างเดิม

 

พอเสร็จแล้วก็ประกอบฝาหลังกลับเข้าไปให้จุดงัดทั้งสองจุดที่เราแกะออกในตอนแรกล็อคปิดฝากหลังจนสนิท


ต่อไปให้เราดูที่ด้านล่างกล้องในฝั่งซ้ายจะเห็นตูดแกนเก็บฟิล์ม  ที่ตรงนี้มันจะมีรอยบากแบนๆเอาไว้ให้เราหมุนฟิล์มเข้าแกน ของผมจะเยินๆหน่อยนะครับเพราะหมุนไปหลายรอบมาก 555

 

ขั้นตอนคือเราจะใช้ไขควงปากแบนหรืออะไรก็ได้ที่เอามาใช้หมุนแกนนี้ได้ เช่นเหรียญเล็กๆอย่างเหรียญสลึงก็โอเค  โดยวิธีคือเราจะหมุนแกนนี้แบบทวนเข็มนาฬิกา  คือหมุนดึงฟิล์มจากกลักมาพันอยู่ในแกนฝั่งซ้ายนี้จนหมด  และอย่าลืมนะครับว่าขึ้นตอนนี้ต้องปิดฝาหลังกล้องแล้วนะครับ ห้ามแสงเข้าไม่งั้นฟิล์มเสียหมด

 

แต่ว่าเรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นมาดูรูปนี้ครับ  การที่จะหมุนฟิล์มมาพันที่แกนฝั่งซ้ายได้จะต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้ก่อน  นั่นคือ ทำยังไงก็ได้ให้ตอนที่เราหมุนแกนที่ด้านล่างกล้อง ฟิล์มที่ถูกหมุนไปจะต้องไปลากเจ้า "ตัวเลื่อนฟิล์ม" หมุนไปทางซ้ายมือด้วย

 
ซึ่งตรงนี้แหละครับ  เมื่อเราหมุนแกนด้านล่าง  เจ้าตัวเลื่อนฟิล์มมันจะล็อคไม่ให้หมุนไปทางซ้ายห้ามเราฝืนหมุนต่อนะครับไม่งั้นเดี๋ยวรูหนามเตยของฟิล์มจะขาด  วิธีคือให้เรามองหา "ช่องปลดล็อคตัวเลื่อนฟิล์ม" โดยเจ้ากล้องตัวนี้มันไปแอบอยู่ที่ด้านหน้ากล้องครับ


ถ้าซูมเข้าไปจะเห็นสลักตัวนึงอยู่ในช่องนี้ 


ให้เราหาอะไรมาดันสลักตัวนี้ไปด้านข้างครับ โดยผมลองใช้ไขควงตัวเล็กๆทำดู


ก็ต้องดันสลักในช่องค้างไว้ครับ ถ้าถูกต้องระหว่างที่ดันสลัก เจ้าตัวเลื่อนฟิล์มต้องสามารถหมุนไปทางซ้ายได้ครับ  จากนั้นให้เราค้างไว้ในท่านี้ แล้วพลิกมาดูอีกด้านของกล้อง       ขอบอกก่อนนะครับว่า ท่าทางตอนนี้จะทุลักทุเลมาก  
1 ดันสลักในช่องไว้ให้สามารถ หมุนตัวเลื่อนฟิล์มในตำแหน่งที่ 2 ไปทางด้านซ้ายได้  และในขณะเดียวกันเราต้องใช้มือที่เหลือเอาไขควงหมุนที่แกนด้านล่างในตำแหน่งที่ 3 ไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาด้วย

 

ก็หมุนไขควงไปครับ ถ้าทุกอย่างถูกต้องขณะที่เราหมุนไขควง ตัวเลื่อนฟิล์มจะต้องหมุนตามไปด้วย  ก็ให้เราหมุนไปเรื่อยๆจนฟิล์มข้ามจากกลักมาอยู่ในแกนฝั่งซ้ายทั้งหมด พอหมดแล้วมันจะหมุนไขควงต่อไม่ได้ครับ มันจะตึงๆแปลว่าเสร็จเรียบร้อยให้ปล่อยมือจากช่องสลักได้

คราวนี้ก็เท่ากับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่ เย่ สามารถเอากล้องไปถ่ายต่อได้เลยจ้า 

เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการนำกล้องใช้แล้วทิ้งกลับมาใช้ใหม่ครับ  ใครที่สะสมกล้องพวกนี้ไว้ลองเอาวิธีนี้ไปลองดูนะครับ  ทั้งนี้เพื่อเป็นการใช้กล้องของเราให้คุ้มค่าที่สุดครับ  แต่ว่าต้องบอกไว้ก่อนนะครับ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันสามารถทำได้กับกล้องทุกตัวหรือเปล่ารู้แต่กล้องที่ผมมีอยู่ทั้งหมดที่เก็บไว้ ประมาณ 6-7 ตัวสามารถทำได้ทุกตัวเลย  อาจจะต่างกันไปบ้างตรงตำแหน่งช่องปลดล็อคตัวเลื่อนฟิล์ม  อย่างของโกดักเค้าเอามันวางไว้ที่ด้านบนกล้องครับ ต้องลอกสติ๊กเกอร์ออกถึงจะเจอ


โอเคครับ ขอจบบทความลงแต่เพียงเท่านี้ครับหวังว่าคงจะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้างนะครับผม ลองเอาไปเล่นดูครับ  และขอส่งท้ายบทความด้วยภาพจากฟิล์มที่นำมาโหลดเข้าไปใหม่ครับ  อันนี้เป็นภาพจากฟิล์ม Agfa 400 ครับผม  ขอบคุณมากครับ

โน้ต อะฟิล์ม



3 comments

  • แล้วถ้าจะแกะฟิล์มจากกล้องใช้แล้วทิ้งเอาไปใช้ล่ะครับ ใช้วิธีปิดหน้าเลนส์ถ่ายในที่มืดให้หมดแล้วแกะออกมาใช่ไหมครับ

    tiger nont
  • แล้วถ้าจะแกะฟิล์มจากกล้องใช้แล้วทิ้งเอาไปใช้ล่ะครับ ใช้วิธีปิดหน้าเลนส์ถ่ายในที่มืดให้หมดแล้วแกะออกมาใช่ไหมครับ

    tiger nont
  • ขอบคุณสำหรับบทความนะคะ เป็นความรู้ที่ดีมากจริงๆค่ะ ^^

    AW

Leave a comment